มรดกทางวัฒนธรรมของฮิราอิซูมิ

ประวัติศาสตร์ของฮิระอิซูมิ

บุคคลที่เกี่ยวข้อง

มินาโมะโตะโนะโยชิสึเนะ กับฮิระอิซูมิ

ชีวประวัติของมินาโมะโตะโนะโยชิสึเนะ (ต่อเนื่องไปยังฮิระอิซูมิ)


ภาพของโยชิสึเนะ (จูซนจิคนจิคิอินโซ)
สมัยอะสึจิโมะโมะยามะ

 มินาโมะโตะโนะโยชิสึเนะ เป็นลูกชายคนที่เก้าของโยชิโตะโมะ ซึ่งโยชิโตะโมะนั้นแพ้ให้กับไทระโนะคิโยโมริ ที่สงครามเฮจิ หลังจากที่เสียชีวิตในสงครามแล้ว ได้ฝากโยชิสึเนะไว้ที่วัดคุระมะของเกียวโต แต่ว่ามินาโมะโตะโนะโยชิสึเนะไม่อยากเป็นพระ เมื่ออายุ 16 ปีจึงได้ออกจากวัดคุระมะแล้วมุ่งหน้าไปยังฮิระอิซูมิ ว่ากันว่าฟูจิวาระฮิเดะฮิระนั้นได้ต้อนรับโยชิสึเนะอย่างอบอุ่น และคาดกันว่าฮิระอิซูมิเป็นสถานที่ที่โยชิสึเนะได้ใช้ชีวิตในช่วงวัยรุ่นอยู่

ฮิระอิซูมิและสมรภูมิ (บทบาทของโยชิสึเนะ)

 โยชิสึเนะนั้น พอทราบว่าพี่ชายโยริโตะโมะยกทหารมาโจมตีฮิระอิซูมิ ก็ได้เดินทางจากฮิระอิซูมิไปเข้าพบเพื่อขอร้องโยริโตะโมะถึงที่ ต่อมาโยชิสึเนะได้ร่วม (การต่อสู้อิจิโนะทานิโนะทาทาไก) และ(การต่อสู้ยาชิมะโนะทาทาไก) ซึ่งทำให้ฮิระอิซูมิเสียหายมากมาย และยังมี(การต่อสู้ดันโนะอูระโนะทาทาไก) ที่ทำให้ฮิระอิซูมิล้มสลายไป

การกลับมาฮิระอิซูมิอีกครั้ง (ช่วงสุดท้ายของโยชิสึเนะ)

 โยชิสึเนะได้รับมอบหมายจากทางราชการให้โจมตีฮิระอิซูมิ แต่เพราะเรื่องนี้ก็ทำให้ผิดใจกับโยริโตะโมะ ต่อจากนั้นโยชิสึเนะก็ได้ถูกตามล่า จนท้ายสุดจากการถูกตามล่าอย่างยาวนาน ก็ได้กลับมาปรากฎกายพบกับฮิเดะฮิระ ซึ่งหลงจากนั้นไม่นานฮิเดะฮิระก็ได้เสียชีวิตลง และอำนาจของโยริโตะโมะก็มากขึ้นเรื่อยๆ ผู้สืบทอดยาสุฮิระก็ไม่สามารถต้านทานได้ โยชิสึเนะได้ถูกโจมตีที่โคโระโมะกาวะโนะดาจิ โยชิสึเนะพร้อมภรรยาและลูกได้ฆ่าตัวตาย

สิ่งที่หลงเหลืออยู่ของโยชิสึเนะที่ฮิระอิซูมิ


ทากาดาเตะเป็นที่ที่ (กิเคกิ)เป็นต้น และในช่วงกลางของชีวิต ใช้เป็นที่เขียนหนังสือ ที่ที่ผ่อนคลาย และอย่างที่ทราบกันว่ายังเป็นสถานที่ที่เป็นช่วงสุดท้ายของโยชิสึเนะอีกด้วย


รูปปั้นหินที่เหลืออยู่ที่เซนจุอิน ว่ากันว่าเป็นสุสานของภรรยาและลูกของโยชิสึเนะ


รูปของเบงเก(จูซนจิคนจิคิอินโซ)
มุซาชิโบ เบงเคนั้นเป็นผู้ติดตามคนหนึ่งของโยชิสึเนะ ว่ากันว่าเป็นวีรบุรุษที่มีความลักษณะเฉพาะตัว ตั้งแต่ในอดีตเบงเคและโยชิสึเนะนั้นต่างเป็นที่รักของผู้คนมากมาย
สุสานของเบงเก อยู่ที่ทางขึ้นสึกิมิสากะของจูซนจิ

โยชิสึเนะยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน

 ตำนานที่เล่าสืบทอดมาเรื่องโยชิสึเนะนั้น ในสมัยหลังๆ มีการนำไปทำเป็น งานประพันธ์ การแสดง หนัง ทำให้ยังคงมีชีวิตอยู่ในใจของผู้คนสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้การออกจากฮิระอิซูมิ ตำนานเรื่องวีรบุรุษไม่มีวันตายก็ยังคงมีชีวิตต่อไป ก็ยังคงเหลืออยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อิวาตะ อาโอโมริ และฮอกไกโด

ตำนานของโยชิสึเนะหลบหนีตายไปทางเหนือก็ยังคงเหลืออยุ่ตามพื้นที่ต่างๆ

โยชิสึเนะของงานเทศกาลฟูจิวาระหน้าฤดูใบไม้ผลิ
ในสมัยนี้ มีทั้งละครทีวี และการ์ตูน และสื่ออื่นๆ ที่ทำให้พวกเราได้สนุกสนานกัน

นักเขียนต่างๆที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมของฮิระอิซูมิผ่านงานเขียนของเขา
ไซเกียว


ซากุระของเขาทาบะชิเนะ (ภาพจำลอง CG)

 นักกวีไซเกียวนั้น ช่วงปลายสมัยเฮอัน ได้มาเยือนฮิระอิซูมิสองครั้ง ไซเกียวประทับใจความสวยงามของเขาทาบะชิเนะ ที่ว่ากันว่ามีซากุระถูกปลูกไว้ถึง 1 พันต้น จึงได้แต่งบทกลอนไว้
ดอกซากุระของเขาทาบะชิเนะ ไม่มีคำถาม
 นอกจากที่โยชิโนะแล้ว ยิ่งกว่าซากุระของเขาทาบะชิเนะนั้นงดงามจนไม่มีคำถามเลย แม้แต่ซากุระที่ว่าสวยงามของโยชิโนะ (จ. นารา) ที่ว่าสวยแล้วแต่ที่นี่ก็ยังชนะ เรียกได้ว่า สวยจนตกตะลึงในความงดงาม

มัตสึโอะ บะโช


บทกลอนไฮกุและรูปปั้นบะโช (จูซนจิ)

 นักกวีสมัยเอโดที่ชื่อว่ามัตสึโอะ บะโช ได้มาเยือนฮิระอิซูมิเมื่อ ปีค.ศ.1689 ตอนที่บะโชยื่นอยู่ที่ทากาดาเตะ ที่ที่ โยชิสึเนะและลูกน้อง ฟูจิวาระเสียชีวิตลง ได้แต่งบทกลอนไฮกุเอาไว้ดังนี้
(ทุ่งหญ้าหน้าร้อน หาดทราย ซากแห่งความฝัน)(บทกลอนไฮกุ โมซือจิ)
 นอกจากนี้ยังมีบทกลอนเกี่ยวกับคนจิคิโดของจูซนจิยังคงเหลืออยู่อีกด้วย
(ฝนเดือนห้า ตกแล้วคงเหลืออยู่ ศาลาส่องแสง)(บทกลอนไฮกุ อยู่บริเวณหน้าคนจิคิโด จูซนจิ)
 บะโชได้เขียนถึงการท่องเที่ยวครั้งนี้ (ด้านในของถนนแคบ) ไว้อีกด้วย

ลำดับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับฮิระอิซูมิ